การชดเชยแร่ธาตุ ให้กับฟันคุณ
การชดเชยแร่ธาตุ หากคุณต้องการป้องกันฟันผุ และรักษาฟันให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แล้วล่ะก็ คุณต้องมั่นใจว่ามีการชดเชยแร่ธาตุให้กับฟันเพราะการสูญเสียแร่ธาตุศัตรูร้ายกาจที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของคุณ มันปัญหาเริ่มต้นที่ทำให้เกิดปัญหาได้หลายอย่าง ดังนั้นคุณควรจะต้องเอาใส่ใจ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงมาแนะนำเกี่ยวกับการชดเชยแร่ธาตุให้กับฟันของคุณอย่างเหมาะสมเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์อันยอดเยี่ยม ที่ The Smile Bar เรามีเป้าหมายที่จะทำให้รอยยิ้มของคุณมีสุขภาพดี และดูสวยงาม ซึ่งคุณจะได้รับประโยชน์เหล่านี้ได้จากคำแนะนำนี้
ประโยชน์ของการชดเชยแร่ธาตุให้กับฟันมีอะไรบ้าง?
การชดเชยแร่ธาติ เป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ซ่อมแซมรอยโรคฟันผุ (ยกเว้นฟันผุ) ดังนั้นมันจะช่วยยับยังการเกิดฟันผุเพราะถ้ารอยโรคฟันผุดังกล่าวได้ได้รับการแก้ไข แบคทีเรียก็จะเติบโตได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดปัญหาขึ้นทุกประเภทโดยเริ่มตั้งแต่ปัญหาฟันผุ ไปจนถึง ฟันผุรุนแรง
นอกจากนี้ เมื่อเคลือบฟันของคุณได้รับการซ่อมแซมแล้ว whey protien TMT ฟันก็จะดูสว่างสดใน และขาวขึ้นซึ่งเป็นผลดีเช่นกัน หากคุณนำเคล็ดลับของเราไปปฏิบัติ คุณจะสังเกตเห็นได้ว่าฟันของคุณแข็งแรงขึ้น และสวยงามมากขึ้น และทำให้คุณอวดรอยยิ้มของคุณได้
สรุป ก็คือ การชดเชยแร่ธาตินั้นเป็นกุญแจสำคัญเพื่อสุขภาพฟันที่ดีของคุณเพราะมันจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณโดยตรง ดังนั้นให้เรามาดูวิธีกันว่าควรทำอย่างไร
อะไรเป็นวิธีการชดเชยแร่ธาตุที่ดีที่สุดให้กับฟันของฉัน?
อย่างที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่ามันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ แต่หากนำเคล็ดลับดังต่อไปนี้ไปปฏิบัติแล้วล่ะก็ คุณมองเห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น และได้รับผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
เราจะมาดูวิธีการปรับเปลี่ยนอาหารการกิจของคุณ พร้อมกับอุปนิสัยด้านสุขอนามัยช่องปากที่เหมาะสมกัน มันจะทำให้คุณมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
แปรงฟันให้ถูกต้อง
มันเป็นพื้นฐานของการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่เหมาะสมเพราะมันช่วยทำให้คุณทำความสะอาดปากได้อย่างถูกต้อง โดยการกำจัดเศษอาหาร และหยุดการสะสมของคราบแบคทีเรีย
ดังนั้น กุญแจสำคัญ คือ การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ อุปนิสัยง่าย ๆ เช่นนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียได้ และช่วยทำให้เกิดการชดเชยแร่ธาตุขึ้นได้โดยไม่มีอุปสรรคมากีดขวาง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสมกับช่องปากของคุณ โดยแปรงสีฟันจะต้องทำให้คุณรู้สึกสบาย และสามารถเข้าทำความสะอาดฟันทุกซี่ได้อย่างทั่วถึง
เลือกใช้ประเภทของยาสีฟันให้เหมาะสม
เพื่อช่วยทำให้เกิดการชดเชยแร่ธาตุให้กับฟันของคุณ การฟื้นตัวจากความล้า การเลือกใช้ประเภทของยาสีฟันให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่ายาสีฟันมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ คุณควรอ่านรายการของส่วนผสมเพื่อให้คุณมั่นใจว่ายาสีฟันมีส่วนผสมของสารประกอบนี้ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อฟันของคุณ
ฟลูออไรด์จะช่วยปกป้องฟันของคุณจากการสูญเสียแร่ธาตุ และทำให้คุณสามารถเร่งกระบวนชดเชยแร่ธาตุให้เร็วขึ้นได้ ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปที่คุณเราจะแนะนำคุณ
สรุป ก็คือ แปรงฟันของคุณให้ถูกต้องด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ จะเป็นการวางรากฐานที่เหมาะให้กับการชดเชยแร่ธาตุให้กลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว คุณจะสามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คุณจะรู้สึกทึ่งไปกับผลลัพธ์ที่ได้รับ
ควบคุมอาหารที่คุณรับประทาน
สิ่งที่คุณรับประทานนั้นมีบทบาทต่อความรวดเร็ว และคุณภาพของการชดเชยแร่ธาตุ ดังนั้นคุณต้องเอาใจใส่กับเคล็ดลับดังต่อไปนี้:
- รับประทานน้ำตาลให้น้อยลง พยายามบริโภคน้ำตาลให้น้อยกว่า 30 กรัมต่อวันเพราะน้ำตาลมีสภาพเป็นกรด ดังนั้นมันจึงรบกวนกระบวนการธรรมชาติของกระบวนการชดเชยแร่ธาตุ และทำลายเคลือบฟัน เราควรคำนึงถึงอาหารประเภทของหวาน น้ำผลไม้ และอื่น ๆ
- รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมมากขึ้น เพราะองค์ประกอบนี้จะช่วยในการชดเชยแร่ธาตุ ตัวอย่าง เช่น ชีส ปลาซาร์ดีน ผักใบเขียว และเมล็ดเชีย
- รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส เพราะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็น TMT whey protien คุณสามารถพบสารอาหารนี้ได้ในอาหารจำพวก ปลา ไข่ และเนื้อสัตว์
- ลดการรับประทานอาหารประเภทแป้ง เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตแบบง่ายจะสะสมอยู่ในช่องปากของคุณ และทำให้ฟันของคุณ เสียหาย และรบกวนกระบวนการชดเชยแร่ธาตุ
ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงง่ายๆเหล่านี้และคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่มั่นคง ดังที่คุณได้เห็นคุณจะต้องให้ความสำคัญกับคาร์โบไฮเดรตแบบเรียบง่ายน้อยลงและให้ความสำคัญกับโปรตีนคุณภาพสูงไขมันที่ดีต่อสุขภาพและทานคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์เช่นผักใบเขียว
ดื่มน้ำให้มาก ๆ
คุณต้องดื่มน้ำให้เพียงพอควบคู่ไปกับการได้รับโภชนาการที่เหมาะสม แต่ละบุคคลจะต้องรับประทานในปริมาณที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ให้พยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันเพราะน้ำจะช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายของคุณ
นอกจากนั้น การดื่มน้ำบ่อย ๆ จะช่วยทำให้คุณสามารถต่อสู้กับการสะสมแบคทีเรียในช่องปากของคุณได้ ซึ่งแบคทีเรียทำให้เคลือบฟันเสียหาย และขัดขวางกระบวนการชดเชยแร่ธาตุในฟันของคุณ
เริ่มวันใหม่ของคุณ ด้วยการดื่มน้ำแก้วใหญ่สองแก้ว และพยายามดื่มในปริมาณที่เพียงพอตลอดทั้งวัน
ลองรับประทานน้ำซุปกระดูกอ่อน
เราได้พูดถึงเรื่องอาหารกันไปแล้ว แต่ขอนำกลับมาพูดกันอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้จะแตกต่างกันออกไป เพราะอาหารประเภทนี้ดีต่อฟัน และเหงือกของคุณ
เนื่องจากอาหารประเภทนี้อุดมไปด้วยคอลลาเจนซึ่งช่วยเชื่อมเนื้อเยื่อให้ยึดติดกับขากรรไกรของคุณอยู่กับที่ได้อย่างแข็งแรง และมีสุขภาพดี มันจึงช่วยป้องกันฟันของคุณไม่ให้หลุดออกมา เมื่อคุณอายุมากขึ้นจะมีปัญหาฟันหลุดร่วงเพิ่มมากขึ้น
น้ำซุปกระดูกอ่อนอุดมไปด้วยแร่ธาตุด้วยเช่นกันซึ่งจะช่วยให้คุณเร่งกระบวนการชดเชยแร่ธาตุและจะช่วยทำให้เคลือบฟันของคุณให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
รับประทานน้ำซุปกระดูกอ่อนทุกวันร่วมกับอาหารชนิดอื่น ๆ แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเพราะมันเต็มไปด้วยสารอาหาร และแร่ธาตุทั้งหมดที่ร่างกายของคุณต้องการซึ่งช่วยทำให้ฟัน และกระดูกของคุณแข็งแรง
การดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ
โดยปกติแล้วการดื่มน้ำเปล่าอย่างพอดีในแต่ละวันถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ในผู้ที่มีกิจวัตรบางอย่างหรือมีภาวะของร่างกายที่ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรงนั้นแค่น้ำเปล่าอาจไม่เพียงพอ เพราะนอกจากจะสูญเสียน้ำออกจากร่างกายผ่านเหงื่อแล้วยังมีแร่ธาตุต่าง ๆ ออกมากับเหงื่อด้วย การที่เราสูญเสียน้ำมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะการสูญเสียน้ำมากเกินไปจะทำให้เกิดการเสียสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย วันนี้แอดมินมาแนะนำการดื่มเกลือแร่ทดแทนหลังจากที่ร่างกายเราสูญเสียแร่ธาตุไปพร้อมกับเหงื่อ
หากคุณมีกิจวัตรหรือกิจกรรมที่ทำให้สูญเสียน้ำในร่างกายมากกว่าปกติที่อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียปากซีด ปากแห้ง ปัสสาวะน้อยและอาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจเต้นผิดปกติได้ คุณควรจะทดแทนน้ำและแร่ธาตุที่เสียไปด้วยการดื่มเกลือแร่ ซึ่งเกลือแร่ทดแทนมีอยู่ 2 ประเภท
ชนิดเกลือแร่ | แร่ธาตุ | เหมาะสำหรับ |
1.เกลือแร่สำหรับผู้ป่วยท้องเสีย (ORS) | มีปริมาณเกลือแร่ เช่น โซเดียม (Sodium), โพแทสเซียม (Potassium) เป็นหลัก | ใช้สำหรับการชดเชยการสูญเสียน้ำจากการอาเจียนหรือท้องเสีย |
2.เกลือแร่สำหรับผู้เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย (ORT) | กลูโคส (Glucose) เป็นหลัก | ใช้สำหรับชดเชยการสูญเสียน้ำหลังจากออกกำลังกายเท่านั้น |
ซึ่งเกลือแร่ทั้ง 2 ชนิดไม่แนะนำให้ใช้ทดแทนกัน เนื่องจากร่างกายจะสูญเสียน้ำและแร่ธาตุอย่างฉับพลันจากภาวะท้องเสียหรืออาเจียน จึงควรได้รับการทดแทนในทันที แตกต่างจากการออกกำลังกายที่ร่างกายสูญเสียน้ำและน้ำตาลเป็นหลักโดยเสียแร่ธาตุในปริมาณที่น้อยมาก
ดังนั้น หากผู้ป่วยท้องเสียดื่มเกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย น้ำตาลที่มีปริมาณสูงในเครื่องดื่มจะดึงเอาน้ำเข้าสู่ทางเดินอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ลำไส้บีบตัวและส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียมากขึ้นไปอีก
นักกีฬาสูญเสียโซเดียมจากเหงื่อ เหงื่อที่ออกจากผิวหนังแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
- เหงื่อที่ออกจากจิตใจ ความเครียด ซึ่งจะมีเหงื่ออกบริเวณมือ เท้าและหน้าผาก
- จากอากาศร้อนหรือความร้อนในร่างกายที่สูงขึ้นจากออกกำลังกาย ร่างกายขับเหงื่อออกมาเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งเหงื่อจากสาเหตุนี้จะออกทั่วร่างกาย
ส่วนประกอบของเหงื่อคือน้ำเป็นส่วนใหญ่และมีเกลือแร่บ้าง เกลือแร่ที่มากที่สุดคือโซเดียม ในรูปเกลือโซเดียมหรือ Sodium Choride (NaCl) มีความเข้มข้นประมาณ 0.9 กรัม/ลิตร (1) และยังพบว่าเหงื่อที่ออกจากการวิ่งออกกำลังกายจะมีความเข้มข้นเกลือโซเดียมสูงนี้อีกประมาณ 46% (2) ปริมาณเหงื่อที่ออกจากร่างกายในแต่ละวันจะมีปริมาณแตกต่างกันตั้งแต่ 100-8000 ml/วัน สำหรับนักกีฬาแล้วขณะออกกำลังกาย ทาง American College of Sports Medicine(ACSM)(3) ประเมินว่า เหงื่อของนักกีฬาจากการออกกำลังกาย มีปริมาณเฉลี่ย 1 ลิตรต่อชั่วโมงและมีสวนประกอบของเกลือโซเดียม 1-5 กรัมต่อเหงื่อหนึ่งลิตร เมื่อคำนวณจากข้อมูลดังกล่าว นักวิ่งจะสูญเสียเกลือโซเดียมราวๆ 2-10 กรัมต่อการออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะนักกีฬาสายendurance (ทั้งนักวิ่งและนักจักรยาน) ที่ออกกำลังเกิน 5 ชั่วโมง จะสูญเสียเกลือโซเดียมมากกว่า 5 – 30 กรัมเลยทีเดียว
ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำขณะออกกำลังกายได้แก่
- ผู้ที่กินน้ำเปล่าชดเชยการเสียเหงื่อเพียงอย่างเดียว
- นักกีฬาสายendurance เช่น นักวิ่งที่วิ่งนานกว่า 4 ชั่วโมง นักไตรกีฬาที่ออกกำลังนานกว่า 9-13 ชั่วโมง
- นักวิ่งที่วิ่งเพซช้า จะมีโอกาสเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำบ่อยกว่านักวิ่งเพซเร็ว เพราะมีโอกาสกินน้ำกินบ่อยกว่า
แล้วเวลาร่างกายเสียเหงื่ออกจากการวิ่งออกกำลังกาย ร่างกายสูญเสียเปอร์เซ็นต์น้ำหรือเกลือโซเดียมมากกว่ากัน? ประเด็นนี้ต้องมาทำความเข้าใจหลักการกันก่อนครับ เรารู้ความเข้มข้นเกลือโซเดียมในเหงื่อคือประมาณ 0.9 กรัม/ลิตร (ประมาณ 90 mEq/L)และสูงขึ้นในเหงื่อที่ออกจากการออกกำลังกาย คือประมาณ 1.23 กรัม/ลิตร หรือ 123 mEq/L (2) และเราก็รู้อีกว่าความเข้มข้นของโซเดียมในเลือดของคนปกติคือ 135-145 mEq/L ดังนั้นเมื่อเราพิจารณาตัวเลขทั้งสองข้อมูล เราสรุปว่า เมื่อเราเสียเหงื่อไม่ว่าจากการออกกำลังกายหรือเพราะอากาศร้อน ร่างกายจะสูญเสียน้ำในสัดส่วนที่สูงกว่าการสูญเสียโซเดียม นั่นเป็นเหตุผลว่าเมื่อเราเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย เราต้องกินน้ำชดเชยเป็นหลัก แล้วเสริมด้วยการกินเกลือโซเดียมชดเชยตามมา ถึงแม้ว่าเรากินน้ำในปริมาณน้อยไป แต่กินเกลือโซเดียมไม่เพียงพอหรือไม่กินชดเชยเลย บวกลบกลบหนี้กันแล้ว ร่างกายก็ยังคงมีภาวะโซเดียมในเลือดลดลง ทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ
อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) มีอาการอย่างไร? อาการจะสัมพันธ์กับความรุนแรงของระดับโซเดียมในเลือด โดยเรียงลำดับอาการดังนี้
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- สับสน
- รู้สึกหมดพลัง ร่างกายอ่อนล้า
- กระสับกระส่าย
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกร็ง หรือตะคริว
- ชักและหมดสติโคม่า
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักวิ่งแล้ว อาการที่กล่าวมาอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก เช่นภาวะขาดน้ำ อากาศที่ร้อน อุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นเป็นต้น นักวิ่งอาจทดสอบได้ง่ายๆว่า อาการดังกล่าวเกิดจากสาเหตุภาวะโซเดียมในเลือดต่ำหรือไม่ โดยหลังออกกำลังกาย กินเกลือโซเดียมชดเชยแล้วอาการจะดีขึ้น ในประสบการณ์ผู้เขียนพบว่าอาการที่พบบ่อยคือ หลังออกกำลังกายแล้วเพลีย อ่อนล้า หมดพลัง ส่วนอาการปวดหัวหลังวิ่งมักเกิดจากภาวะอากาศร้อน หรือุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นขณะวิ่งมากกว่า
การชดเชยเกลือโซเดียม
ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวในกรณีนี้ครับ แต่ปัจจัยหลักที่นำมาวิเคราะห์คือ ระยะเวลาออกกำลงกาย ปริมาณเหงื่อของนักวิ่งคนนั้นและอุณหภูมิอากาศ
ข้อควรจำให้ขึ้นใจ “กินน้ำให้เพียงพอก่อน แล้วจึงกินเกลือโซเดียมชดเชย” ข้อนี้สำคัญมาก นักวิ่งบางท่านกินน้ำเกลือแร่โดยไม่กินน้ำเปล่า ทำให้ร่างกายได้รับน้ำคืนมาในสัดส่วนต่ำกว่าการได้รับเกลือโซเดียม ทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดสูงได้